IV drip
IV drip ที่ REDERMi Clinics
อาหารที่รับประทานอยู่ทุกวันนี้ แม้ว่าจะครบ 5 หมู่ แต่ได้สารอาหารเพียงพอจริงหรือไม่ ?
การปรุงอาหารในปัจจุบันที่ใช้ความร้อน หรือการขนส่งของวัตถุดิบของผักผลไม้ ทำให้เกิดการทำลายสุญเสียวิตามินและจากงานวิจัย เราพบว่าการปรุงอาหารด้วยการต้ม จะลดวิตามินในกลุ่มที่ละลายน้ำ (water soluble) มากถึง 50-60% ในผัก จึงเป็นไปได้ยากที่เราจะทาน COOK food แล้วจะได้วิตามินเพียงพอ
นั่นเป็นที่มาของการใช้อาหารเสริม ในกลุ่มวิตามินไม่ว่าจะเป็นการให้ทางเส้นเลือดดำ หรือการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงจำเป็น และเหมาะสำหรับ
IV Drip คือการดริปวิตามิน โดยให้วิตามินผ่านทางสายน้ำเกลือ ส่งตรงเข้าสู่กระแสเลือด ถือว่าเป็นทรีตเมนต์ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายได้รวดเร็วทันใจ แก้ปัญหาที่มักเกิดเรื้อรัง รับประทานยาก็ไม่หาย อย่างอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ไม่กระฉับกระเฉง ไม่สดใส ซึ่งถ้าทิ้งไว้เรื้อรัง ก็จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา
ด้วยประโยชน์ดังกล่าวจึงมีการปรุงสูตรขึ้นหลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะสมกับการดูแลสุขภาพของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ในการปรับ IV Drip สูตรสารน้ำเหล่านี้หากต้องการให้เกิดประโยชน์สูงสุดและไม่เกิดอันตรายในการบำบัด ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้
- เข้ารับการตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร อุณหภูมิกาย น้ำหนัก และ ส่วนสูง ซึ่งจำเป็นต่อการคำนวณปริมาณและความเข้มข้นของสารน้ำ รวมถึงอัตราเร็วในการให้สารน้ำเพื่อมิให้เกิดผลข้างเคียงอีกด้วย
- พบแพทย์เพื่อปรึกษาถึงปัญหาสุขภาพที่กังวล ประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการแพ้ยา รวมถึงการให้ข้อมูลสุขภาพโดยรวม เพื่อที่แพทย์จะได้ให้คำแนะนำในการดูและเลือกสูตรสารน้ำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- เจาะเลือด เพื่อประเมินสภาวะของร่างกายว่าสามารถทำ IV Therapy หรือ IV Drip ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ รวมถึงช่วยในการปรับปริมาณความเข้มข้นของวิตามิน ความถี่และจำนวนครั้งในการบำบัดที่เหมาะสม
ข้อควรระวังสำคัญอีกหลายประการที่ท่านควรทราบและต้องแจ้งแก่แพทย์ที่ปรึกษาก่อนทำ IV Drip ดังนี้
- หญิงตั้งครรภ์ หรือ หญิงให้นมบุตร
- ประวัติการแพ้ยา หรือ วิตามินใดๆ รวมถึงลักษณะอาการที่แพ้เป็นอย่างไร
- โรคประจำตัว และยาที่รับประทานเป็นประจำ
- ภาวะไตเสื่อมหรือไตวายเรื้อรัง
- เป็นโรค G6PD deficiency
- รับประทานยาต้านเกล็ดเลือด
- รู้สึกไม่สบาย มีไข้สูง
- มีผื่นหรือแผลบริเวณที่จะสอดเข็มเพื่อให้สารน้ำ เช่น ข้อพับแขน ข้อมือ หลังฝ่ามือ
- กำลังอยู่ในช่วงอดอาหาร หรือ ควบคุมน้ำหนัก
เพื่อให้ได้รับการบำบัดดูแลสุขภาพได้อย่างปลอดภัยอันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นการทำ IV Therapy หรือ IV Drip ควรคำนึงถึงสิ่งสำคัญคือ
- ทำในคลินิกหรือสถานประกอบการที่ได้มาตรฐานที่มีทีมแพทย์ พยาบาล และเครื่องมือพร้อมช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน
- อุปกรณ์ต้องสะอาด มั่นใจว่าปลอดจากสิ่งแปลกปลอม เพราะหากเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ อาจเป็นอันตราย ไม่เพียงเท่านั้นบางคนอาจมีอาการแพ้สารที่ให้ มีผื่นหรือแผลบริเวณที่จะสอดเข็มเพื่อให้สารน้ำ เช่น ข้อพับแขน ข้อมือ หลังฝ่ามือ
เลือกคลินิกที่มีความชำนาญเฉพาะทาง มีประวัติการรักษาและมีการตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด มีผู้ชำนาญการคอยดูแลอย่างใกล้ชิดระหว่างการรับบริการซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก
Meet the professionals
with Experienced Doctor
สูตร IV drip ที่ REDERMi Clinics เราเน้นการปรับขนาดเฉพาะบุคคลโดยสั่งการรักษาโดยแพทย์ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน Preventive medicine และ American board Nutritional Wellness
Signature IV drip
vitamin IV drip สูตรเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ
แพทย์จะเป็นผู้คำนวณปริมาณวิตามิน และเกลือแร่เพื่อให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมในสูตรต่าง ๆ ที่ดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก
สำหรับผู้ที่มี special request แพทย์สามารถ customized booster โดยปรับเพิ่มวิตามินบางตัว เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น
ข้อแนะนำสำหรับ IV Drip
- ทำได้บ่อยทุก 1-2 สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- เริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงเมื่อทำต่อเนื่องนาน 3-4 ครั้ง
ที่ REDERMi Clinics การรักษาด้วย IV อยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์ทุกเคส
ข้อควรพิจารณาการเลือก IV Drip ที่ REDERMi Clinics
- REDERMi Clinics เป็นคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะอย่างถูกต้อง สามารถนำชื่อสถานพยาบาลภาษาไทย ไปตรวจสอบบนเว็บไซต์ “ตรวจสอบสถานพยาบาลเอกชนที่ได้รับอนุญาต” ได้
- ที่ REDERMi Clinics แพทย์เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ ตรวจสอบประวัติแพทย์ได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา
- ที่ REDERMi Clinics ใช้ยามาตรฐาน ที่ผ่านอย. แล้วเท่านั้น โดยสั่งการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน Preventive Medicine, Anti-Aging และ American board Nutritional Wellness จึงมั่นใจในประสิทธิภาพ และความปลอดภัย
- ที่ REDERMi Clinics มีการติดตามผล และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวก่อนและหลังทำอย่างใกล้ชิด สามารถปรึกษาแพทย์ที่ทำเคสได้
- จากประสบการณ์ของแพทย์ที่ REDERMi Clinics มากกว่า 15 ปี สามารถดูรีวิวหรือความคิดเห็นจากผู้มาใช้บริการจริง
NAD+
Nicotinamide Adenine Dinucleotide
อนุพันธ์ของวิตามินบี3 หนึ่งในโมเลกุลที่สำคัญที่สุดในขบวนการฟื้นฟูเซลล์ในระดับ DNA มีความสำคัญในการกำหนดอายุขัยของเซลล์ในร่างกายคล้าย ๆ กับ Growth Hormone ที่ เมื่ออายุเพิ่มขึ้นจะผลิตได้น้อยลง จึงนำไปสู่ความเสื่อมของร่างกาย และโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย
ประโยชน์ของการรักษาด้วย NAD+ ผ่านหลอดเลือด
- ร่างกายดูดซึมได้ 100%
- ช่วยเสริมการทำงานด้านความจำ และ การทำงานของสมอง
- เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันและการทำงานของอวัยวะในร่างกาย
- เพิ่มระดับพลังงานลดอาการเหนื่อยล้าเสริมสร้างสมดุลให้ร่างกาย
- เร่งการซ่อมแซมของร่างกายในระดับ DNA ช่วยชะลอวัยและความชราของเซลล์ ทำให้ผิวโดยรวมอ่อนเยาว์ดูดีขึ้น
- ช่วยบรรเทาอาการหวาดระแวงและบรรเทาความเครียด
- กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญและกระบวนการทำงานเมทาโบลิซึ่มของร่างกาย
NAD+ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาดังนี้
- รู้สึกอ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน
- น้ำหนักตัวเพิ่ม ถึงแม้จะทานน้อย
- สมองล้า brain fog
- ภาวะ long covid
ข้อห้าม และ ข้อควรระวังในการรักษาด้วย NAD+
ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น โรคไต โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ ฯลฯ
ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้มาก่อน
สตรีมีครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร
ที่ REDERMi Clinics การรักษาด้วย NAD+ อยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์ทุกเคส